ตั้งแต่ศึก พรีเมียร์ ลีกอังกฤษ เปิดฉากมานั้นก็มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายนักเตะ ทั้งคุ้มค่าเงินและไม่คุ้มค่า และอีกสิ่งที่มักจะทำให้แฟนบอลประหลาดใจได้นั้นก็คือการเลือก ผู้จัดการทีม พรีเมียร์ลีก ซึ่งกลายเป็นคนที่ไม่อยู่ในความคาดหมายเรียกได้ว่าสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 4 ผู้จัดการทีมที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับงานแบบเซอร์ไพรส์ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนส่วนจะเป็นใครนั้นมาติดตามกันในบทความนี้
พบกับ 4 การแต่งตั้ง ผู้จัดการทีม พรีเมียร์ลีก แบบสุดช็อควงการ
ตำแหน่งผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นผู้ที่มีหน้าที่หลักในการกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการเล่นของทีม ผู้จัดการทีมต้องรับผิดชอบต่อผลงานของทีมทั้งในสนามและนอกสนาม และการที่จะขึ้นมาเป็น ผู้จัดการทีม พรีเมียร์ลีก ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่านี้คือลีกฟุตบอลอันดับ 1 ที่คนทั้งโลกติดตามชมและมีฐานแฟนคลับมากที่สุดลีกหนึ่ง
ในวันนี้ 6leagues จะพาทุกท่านมาพบกับการแต่งตั้ง 4 กุนซือแห่งพรีเมียร์ลีก ที่สร้างความประหลาดใจแฟนบอลโดยมีทั้งผลงานดีเกิดความคาดหมายและห่วยจนแฟนแทบร้องจะเป็นคนไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย
เปาโล ดิ คานิโอ ผู้จักการทีมซันเดอร์แลนด์ (2013)
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2013 เปาโล ดิ คานิโอ อดีตดาวยิงชาวอิตาเลียน ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ โดยมาแทนที่ มาร์ติน โอนีลล์ คำตัดสินนี้นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเพราะแม้ว่าดิ คานิโอจะมีประสบการณ์ในการพาสวินดอนเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในลีกวันได้ แต่เขาไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมในระดับพรีเมียร์ลีกมาก่อน
นอกจากนี้ เขายังมีบุคลิกที่เรียกว่าเจ้าระเบียบสุดๆอีกทั้งยังมักแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างเปิดเผย สิ่งนี้ส่งผลให้เดวิด มิลิแบนด์ รองประธานสโมสรต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบแทนเขาซึ่งเป็น ข่าวฟุตบอลออนไลน์ ที่ดังมาในยุคนั้น
เมื่อเข้ามาคุมทีม ดิ คานิโอได้ตั้งกฎเหล็กหลายข้อให้กับนักเตะ รวมถึงการห้ามกินซอสมะเขือเทศและมายองเนส แต่ความเข้มงวดนี้ไม่ได้ช่วยให้ซันเดอร์แลนด์ทำผลงานได้ดีขึ้น หลังจากเก็บได้เพียง 8 คะแนนจาก 7 เกม สุดท้ายดิ คานิโอถูกไล่ออกจากตำแหน่ง การแต่งตั้งที่ดูเป็นการเสี่ยงนี้จึงไม่สามารถทำให้ทีมมีประสิทธิภาพตามที่หวังไว้ได้
มัวริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการเซาท์แธมป์ (2013)
ไนเจล เอ็ดกิ้นส์ มีบทบาทสำคัญในการพาเซาท์แธมป์ตันก้าวขึ้นมาจากลีกวันไปสู่พรีเมียร์ลีกในช่วง 2 ปีครึ่งที่เขาคุมทีม แต่การที่ทีมตกอยู่ในโซนตกชั้นในเดือนมกราคมปี 2013 ทำให้บอร์ดบริหารของสโมสรตัดสินใจปลดเขาออกและแต่งตั้ง มัวริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาแทนที่
การตัดสินใจนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากอดีตผู้จัดการทีมอย่าง ลอว์รี่ แม็คเมเนมี่ ที่เปิดเผยความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการมาของโปเช็ตติโน่ ด้วยคำถามที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความรู้ของโปเช็ตติโน่เกี่ยวกับสโมสรและฟุตบอล พรีเมียร์ ลีกอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ สามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยไม่เพียงแต่พาเซาท์แธมป์ตันหนีพ้นจากโซนตกชั้น แต่ยังทำให้ทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนน และสร้างสถิติเก็บแต้มสูงสุดของสโมสรตั้งแต่ฤดูกาล 1992/93 ผลงานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงทักษะในการจัดการทีมของเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล (2011)
ในฤดูกาล 2010/11 ของพรีเมียร์ลีก คริส ฮิวจ์ตัน นำนิวคาสเซิลยูไนเต็ดกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างสำเร็จและดำเนินการต่อในลีกให้สาลิกาดงมีผลงานที่ค่อนข้างดีจนถึงเดือนธันวาคม ทว่า แม้จะอยู่ในอันดับที่ 11 ซึ่งไม่ถือว่าต่ำ บอร์ดบริหารของสโมสรกลับตัดสินใจปลดเขาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลที่ต้องการผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์มากขึ้นเพื่อนำทีมไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่านี้
การปลดฮิวจ์ตันสร้างความตกใจให้กับแฟนบอลนิวคาสเซิลไม่น้อย และไม่กี่วันต่อมา ความตกใจยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อสโมสรประกาศแต่งตั้ง อลัน พาร์ดิว ซึ่งกำลังคุมเซาธ์แฮมป์ตันในลีกวันเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ด้วยสัญญายาวถึง 5 ปีครึ่ง การตัดสินใจนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอีกครั้งเนื่องจากพาร์ดิวไม่ได้มีประวัติการทำงานในระดับพรีเมียร์ลีกที่โดดเด่น
แต่แล้วพาร์ดิวก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการพาทีมจบอันดับที่ 5 ในฤดูกาล 2011/12 คว้าตำแหน่งเทรนเนอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี และในปีถัดมานำทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศของยูโรป้าลีก ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่ยกระดับความน่าเชื่อถือของเขาในฐานะผู้จัดการทีม แต่ยังช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนบอลนิวคาสเซิลอีกด้วย
สเวน โกรัน อิริคสัน ผู้จัดการทีมแมนฯซิตี้ (2007)
หลังจากทักษิณ ชินวัตร เข้าทำการเทคโอเวอร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้สำเร็จ การกลับมาของสโมสรนี้ในฐานะหนึ่งในทีมชั้นนำของอังกฤษกลายเป็นเป้าหมายหลักของเขา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ “เรือใบสีฟ้า” กลายเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ ทักษิณจึงได้ดึงตัว สเวน-โกรัน อิริคสัน ผู้ฝึกสอนชื่อดังชาวสวีเดน เข้ามารับหน้าที่เป็นกุนซือ เพื่อวางรากฐานสำหรับความสำเร็จในอนาคตของสโมสร
ในช่วงเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่ง อิริคสันนำทีมเก็บชัยชนะได้ใน 3 เกมแรก ซึ่งรวมถึงการเอาชนะคู่แข่งร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปี 2007 ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้มีความหวังว่าอิริคสันอาจจะพาทีมไปสู่จุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของทีมเริ่มตกลงจนน่าใจหาย และจากเหตุการณ์ที่เกมพ่ายต่อมิดเดิ้ลสโบรช์ด้วยสกอร์ 1-8 กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ อิริคสัน ถูกไล่ออกจากตำแหน่งทันที
และทั้งหมดก็คือ 4 ผู้จัดการทีม พรีเมียร์ ลีกอังกฤษ ที่เรียกได้ว่าสร้างเซอร์ไพรสให้กับเหล่าแฟนบอลเป็นอย่างมาก ส่วนผลงานก็มีทั้งดีและห่วยแตก เรียกว่าเป็นการทำให้ช็อคแล้วช็อคอีก แล้วโอกาสหน้า 6leagues.com จะพาทุกท่านมาพบกับข่าวสารสาระดีกันใหม่นะครับ ส่วนท่านใดต้องการ ดูบอลฟรี คลิกตรงนี้ได้เลย
อ่านข่าวก่อนหน้า
โฟเด้น ดาวเตะอังกฤษ ลั่นผลงานตัวเองยังดีไม่เพียงพอ
